PRIVACY POLICY
นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล “PRIVACY POLICY”
บริษัท ไลท์ติ้ง แอนด์ อีควิปเมนท์ จำกัด (มหาชน)

ฉบับที่ 1 POLICY/REV.1/2565

บริษัท ไลท์ติ้ง แอนด์ อีควิปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ดำเนินการในฐานะผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล ตระหนักถึงความสําคัญของการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและหลักปฏิบัติ รวมถึง มาตรการรักษาความปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อให้สอดคล้องตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง

ทั้งนี้ บริษัทฯ จึงได้จัดทํานโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ให้กับบุคคลทั่วไปที่เกี่ยวข้องกับบริษัทฯ รวมถึง บุคลากรทุกคนในบริษัทฯได้รับทราบ ทั้งผู้บริหาร ผู้ถือหุ้น พนักงาน บุคคลภายนอก ผู้ปฏิบัติงานร่วมกับบริษัทฯ ลูกค้า คู่ค้า ให้ทุกคนถือปฏิบัติ โดยผู้บริหารของทุกหน่วยงานมีหน้าที่สนับสนุน ผลักดัน ตรวจสอบการดําเนินงาน โดยถือหลักตามนโยบายและกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเคร่งครัด ดังนี้

  • การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลให้มีการดําเนินการอย่างจํากัดเพียงเท่าที่จําเป็น ตามวัตถุประสงค์ของการใช้งานเท่านั้น และสอดคล้องตามนโยบาย คู่มือ และ/หรือแนวปฏิบัติที่บริษัทฯ กําหนด
  • คุณภาพของข้อมูลส่วนบุคคลที่จัดเก็บ ให้คํานึงถึงความถูกต้องเหมาะสม มีมาตรการในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเหมาะสม มีการบริหารจัดการความเสี่ยง รวมถึงการสร้างจิตสํานึกความรับผิดชอบในด้านความมั่นคงปลอดภัย ของข้อมูลส่วนบุคคล
  • วัตถุประสงค์ในการเก็บรวมรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลภายใต้ฐานทางกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับ พรบ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและให้มีการประมวลผลข้อมูลตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดเท่านั้น โดยจะไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลต่อบุคคลภายนอกเว้นแต่ในกรณีดังต่อไปนี้
    1. 3.1 เพื่อประโยชน์เกี่ยวกับชีวิต สุขภาพ หรือความปลอดภัย (VITAL INTEREST)
    2. 3.2 เพื่อการปฏิบัติตามสัญญาที่มีความผูกพันระหว่างกัน (CONTRACT)
    3. 3.3 เพื่อการดําเนินการตามกฎหมาย คําสั่งศาล หรือผู้มีอํานาจตามกฎหมายที่มีลักษณะทํานองเดียวกัน (OFFICIAL AUTHORITY)
    4. 3.4 เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย (LEGITIMATE INTEREST)
    5. 3.5 เพื่อการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย (LEGAL OBLIGATION)
    6. 3.6 เพื่อประโยชน์ในการศึกษา วิจัย หรือการทําสถิติ (RESEARCH OR STATISTIC)
    7. 3.7 เป็นกรณีที่ได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล (CONSENT)
  • บริษัทฯ จัดให้มีการประชาสัมพันธ์และเผยแพร่นโยบาย รวมถึง แนวปฏิบัติที่เกี่ยวข้องผ่านทางเว็บไซต์ และมีการดำเนินการเรื่องอื่นๆ ตามที่กฎหมายกําหนด เช่น มีมาตรการ รองรับการใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล กําหนดความรับผิดชอบอำนาจหน้าที่ของบุคลากรที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลและมีการจัดทำข้อตกลงรักษาข้อมูล ร่วมกับผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (DATA PROCESSOR AGREEMENT) รวมถึงมีการประกาศแต่งตั้งเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (DPO) เพื่อทำหน้าที่ตามกฎหมายกำหนด เป็นต้น
  • มีการจัดอบรมให้ความรู้กับบุคลากรในบริษัทฯ เพื่อปลูกฝังจิตสํานึก ความรับผิดชอบ และให้ความสำคัญต่อข้อมูลส่วนบุคคลเสมือนเป็นข้อมูลของตนเอง

นโยบายฉบับนี้ ยังมีวัตถุประสงค์เพื่อแจ้งกับบุคคลที่เกี่ยวข้องให้ทราบและทำความเข้าใจถึงเหตุผลที่บริษัทฯต้องเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยมีขั้นตอน อย่างชัดเจน ตลอดจนอธิบายถึงมาตรการรักษาความปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อให้สอดคล้องตาม พรบ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ที่ประกาศใช้

1. ขอบเขตการบังคับใช้

นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ ใช้สำหรับกลุ่มบุคคลดังต่อไปนี้

  • กลุ่มลูกค้าทั่วไป วัตถุประสงค์ในการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของกลุ่มลูกค้าทั่วไป เพื่อพัฒนาบริการ ปรับปรุงสินค้า สำรวจตลาด ความต้องการของลูกค้าและแก้ไขข้อบกพร่องต่างๆ ซึ่งกลุ่มลูกค้าทั่วไปประกอบด้วย
    1. 1.1 ลูกค้าบุคคลธรรมดา ทั้งที่เป็นลูกค้าของบริษัทฯในอดีต ปัจจุบันและกลุ่มเป้าหมายของบริษัทฯ ซึ่งอาจเป็นลูกค้าของบริษัทฯ ในอนาคต
    2. 1.2 ลูกค้าที่เป็นตัวแทน ตัวแทนโครงการ ผู้มีอํานาจกระทําการแทนนิติบุคคล กรรมการ ลูกค้าผู้เข้ามาติดต่อ และบุคคลธรรมดาที่ทำหน้าที่ในนามนิติบุคคล
  • กลุ่มคู่ค้า คู่สัญญา วัตถุประสงค์ในการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของกลุ่มคู่ค้า คู่สัญญา เพื่อตรวจสอบและยืนยันตัวตนเกี่ยวกับการเข้าทำธุรกรรมหรือนิติกรรมสัญญา ซึ่งกลุ่มคู่ค้า คู่สัญญานั้นประกอบด้วย
    1. 2.1 บุคคลธรรมดา ซึ่งเป็นคู่ค้าหรือคู่สัญญาของบริษัทฯ ทั้งในอดีต ปัจจุบันและในอนาคต
    2. 2.2 บุคคลที่ทำหน้าที่เป็นตัวแทนหรือผู้มีอํานาจกระทําการแทนนิติบุคคล กรรมการ ผู้ติดต่อและบุคคลธรรมดาที่ทำหน้าที่ในนามนิติบุคคล ซึ่งเป็นคู่ค้าหรือคู่สัญญา นิติบุคคลกับบริษัทฯ
  • กลุ่มกรรมการ ผู้ถือหุ้น นักลงทุน ผู้สอบบัญชีรับอนุญาต รวมถึงบุคคลทั่วไปที่สนใจลงทุนร่วมกับบริษัทฯ วัตถุประสงค์ในการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลกลุ่มนี้ เพื่อ ตรวจสอบและยืนยันตัวตนในการลงทุนหรือซื้อหุ้นบริษัทฯ
  • กลุ่มผู้มาติดต่อ บุคคลภายนอกที่เข้ามาในบริเวณพื้นที่ของบริษัทฯ วัตถุประสงค์ในการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลกลุ่มนี้ เพื่อทำการตรวจสอบบุคคล และสร้าง มาตรฐานด้านความปลอดภัย โดยบริษัทมีความจําเป็นต้องเก็บรวบรวมข้อมูลและรับผิดชอบด้านความปลอดภัยรวมถึงทรัพย์สิน
  • กลุ่มพนักงานบริษัท และผู้สมัครงาน ซึ่งอาจครอบคลุมทั้งที่เป็นสมาชิกครอบครัว หรือบุคคลอ้างอิงที่พนักงาน หรือผู้สมัครงานอ้างอิงถึง วัตถุประสงค์ในการจัดเก็บข้อมูล ส่วนบุคคลของบุคคลกลุ่มนี้ เพื่อคัดสรรบุคลากร และบริหารงานภายในองค์กรรวมถึงดำเนินการตามเงื่อนไขการจ้างงานของภาครัฐ

บริษัทฯ อาจทำการเก็บข้อมูลอ่อนไหว (SENSITIVE DATA) กับกลุ่มบุคคลข้างต้นตามความจำเป็น ซึ่งวัตถุประสงค์ในการเก็บข้อมูลอ่อนไหว มีดังนี้

  • ข้อมูลชีวภาพ เพื่อยืนยันตนในการเข้าถึงยังพื้นที่สำนักงาน
  • ข้อมูลศาสนา เพื่อพิจารณาในการจัดสวัสดิการตามประเพณีและบริการจัดเตรียมอาหาร
  • ข้อมูลอาชญากรรม เพื่อคัดกรองบุคคลอันตรายและตรวจสอบคุณธรรมของผู้สมัครงาน
  • ข้อมูลความพิการ เพื่อดำเนินการตามความจำเป็นตามฐานกฎหมาย
  • ข้อมูลสุขภาพ เพื่อพิจารณาถึงตำแหน่งที่เหมาะสมกับสภาพร่างกาย

นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ ยังบังคับใช้ครอบคลุมช่องทางต่างๆ ระหว่างเจ้าของข้อมูลกับหน่วยงานอื่นที่ทําหน้าที่เป็นผู้ให้บริการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ไม่ว่า จะเป็นช่องทางการติดต่อสําหรับกลุ่มธุรกิจต่างๆของบริษัทฯ ระบบอิเล็กทรอนิกส์ เว็บไซต์ สายด่วน (CALL CENTER) หรือศูนย์บริการลูกค้า ช่องทางการร้องเรียน หรือให้คําแนะนํา ติชม ช่องทางการติดต่อสื่อสารทางออนไลน์ แอปพลิเคชั่นสําหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ กิจกรรมต่างๆ สถานที่สาธารณะหรือชุมชนที่บริษัทฯ ดูแลรับผิดชอบเพื่อสังคม และ/หรือ เพื่อ กิจกรรมอื่นๆ ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต โดยอธิบายถึงประเภทข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯจัดเก็บ วิธีการ แหล่งที่มา วัตถุประสงค์ที่เก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผยและอาจมีการโอนข้อมูลส่วน บุคคลไปยังต่างประเทศ กลุ่มบุคคลที่อาจได้รับการเปิดเผยหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคล ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล และสิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ตลอดจน มาตรการรักษาความปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคล

2. การจํากัดความที่กล่าวถึงในนโยบายฉบับนี้

“บริษัทฯ” หมายถึง บริษัท ไลท์ติ้ง แอนด์ อีควิปเมนท์ จำกัด (มหาชน) และรวมถึงผู้มีหน้าที่กระทําการแทนบริษัทด้วย

“ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลที่ทําให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ ซึ่งบริษัทฯ ได้เก็บรวบรวม ไว้ตามที่ได้แจ้งไว้ในนโยบายฉบับนี้ อย่างไรก็ดี ข้อมูลต่อไปนี้ไม่ใช่ข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ข้อมูลสําหรับการติดต่อทางธุรกิจที่ไม่ได้ระบุถึงตัวบุคคล เช่น ชื่อบริษัท ที่อยู่ของบริษัท เลขทะเบียนนิติบุคคลของบริษัท หมายเลขโทรศัพท์ของที่ทํางาน ที่อยู่อีเมล (E-MAIL ADDRESS) ที่ใช้ในการทํางาน ที่อยู่อีเมล (E-MAIL ADDRESS) กลุ่มของบริษัท ข้อมูลนิรนาม (ANONYMOUS DATA) หรือข้อมูลแฝงที่ถูกทําให้ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้อีกโดยวิธีการทางเทคนิค (PSEUDONYMOUS DATA) เป็นต้น

“ข้อมูลส่วนบุคคลที่อ่อนไหว” หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลที่ พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกําหนดให้เป็นข้อมูลที่มีความอ่อนไหว ซึ่งบริษัทฯ ได้เก็บรวบรวมใช้ เปิดเผย เมื่อ บริษัทฯ ได้รับความยินยอมตามกฎหมายจากเจ้าของข้อมูลก่อน โดยข้อมูลประเภทนี้บริษัทฯจะจัดเก็บเฉพาะกลุ่มบุคลากรและผู้สมัครงานเท่านั้น ซึ่งข้อมูลอ่อนไหวที่จัดเก็บได้แก่ เพศ ศาสนา ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลหนี้สิน ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลทางชีวภาพ เช่น ภาพจําลองใบหน้า จําลองม่านตา และข้อมูลจําลองลายนิ้วมือ

“การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง การเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ด้วยวิธีการส่งต่อ เผยแพร่ข้อมูลส่วนบุคคลตามกิจกรรมภายใต้การดำเนินงาน ของบริษัทฯ

“การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล” บริษัทอาจส่งต่อข้อมูลส่วนบุคคลเฉพาะกลุ่มพนักงาน และผู้สมัครงานไปยังสถานประกอบการอื่น ทั้งหน่วยงานเอกชน หน่วยงานรัฐ เพื่อ ประมวลผลข้อมูล หรือความจำเป็นตามข้อบังคับทางกฎหมาย

“เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล” (DATA SUBJECT) หรือ “เจ้าของข้อมูล” หมายถึง ตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล แต่ไม่ใช่กรณีที่บุคคลมีความเป็นเจ้าของข้อมูล (OWNERSHIP) หรือเป็นผู้สร้างหรือเก็บรวบรวมข้อมูลนั้นเอง โดยเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลนี้ หมายถึงบุคคลธรรมดาเท่านั้น ไม่รวมถึง “นิติบุคคล” (JURIDICAL PERSON) ที่จัด ตั้งขึ้นตามกฎหมาย เช่น บริษัท สมาคม มูลนิธิ หรือองค์กรอื่นใด ซึ่งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลควรให้ข้อมูลส่วนบุคคลของตนเองตามความเป็นจริง ไม่บิดเบือน เพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย เพื่อปฏิบัติตามกฏหมายหรือภายใต้ฐานสัญญาที่ทำกับบริษัทฯ เป็นลายลักษณ์อักษร เช่น

  • สัญญาว่าจ้าง เช่น สัญญาจ้างพนักงาน ที่ปรึกษา ผู้ตรวจสอบ วิทยากร ผู้รับเหมา ผู้ให้บริการ ฯลฯ
  • สัญญาซื้อขาย/สัญญาโครงการ
  • สัญญาเช่า
  • สัญญาอื่นๆ /บันทึกข้อตกลงที่มีผลประโยชน์ร่วม
3. ผลกระทบที่เป็นไปได้ในกรณีที่เจ้าของข้อมูลปฎิเสธการยินยอมฯ

ผลกระทบที่เป็นไปได้ ในกรณีที่เจ้าของข้อมูลปฏิเสธการยินยอมในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลซึ่งมีผลกระทบต่อเจ้าของข้อมูลของกลุ่มบุคคล ดังต่อไปนี้กลุ่มลูกค้า บริษัทฯ อาจไม่สามารถแจ้งส่วนลด สิทธิพิเศษ อาจรวมถึงการระงับให้บริการกลุ่มกรรมการ คู่ค้า ผู้ถือหุ้น ผู้สอบบัญชี บริษัทฯ ไม่สามารถทำสัญญาการลงทุน ลงนาม หรือดำเนินธุรกิจ ร่วมกันกลุ่มผู้มาติดต่อ บุคคลภายนอกที่เข้ามาในบริเวณพื้นที่ของบริษัทฯ บริษัทอาจปฏิเสธการขอเข้าถึงพื้นที่ตามมาตรการรักษาความปลอดภัยกลุ่มพนักงานบริษัทและผู้สมัครงาน บริษัทฯ ไม่สามารถจัดสวัสดิการ หรือในบางกรณีบริษัทฯ อาจจำเป็นต้องยกเลิกสัญญาที่ทำกับเจ้าของข้อมูลที่ปฏิเสธการยินยอมฯ เนื่องจากไม่สามารถดำเนินการประมวลผลหรือส่งต่อ เพื่อประมวลผล ตามวัตถุประสงค์ของสัญญาจ้างและหรือกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

4. การใช้คุกกี้ (COOKIES)

ในการเข้าชมเว็บไซต์ของบริษัทฯ อาจมีการเก็บรวบรวมข้อมูลโดยอัตโนมัติ คุกกี้บางส่วนมีความจําเป็นเพื่อให้เว็บไซต์สามารถทํางานได้อย่างเหมาะสม และบางส่วนเป็นคุกกี้ที่มีไว้ เพื่ออํานวยความสะดวกแก่ผู้เข้าชมเว็บไซต์ ซึ่งท่านสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ในนโยบายคุกกี้ของบริษัทฯ

5. การเก็บรักษา ระยะเวลา และมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัย

บริษัทฯ จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลไว้ตราบเท่าที่จําเป็น เพื่อบรรลุตามวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งไว้ในนโยบายฉบับนี้ โดยจะพิจารณาระยะเวลาที่เหมาะสม ตามระยะเวลาที่อาจ คาดการณ์ได้ตามกฎหมายและมาตรฐานการเก็บของบริษัทฯ ไม่เกินกว่า 10 ปีตามอายุความ กรุณาดูตารางชี้แจงกลุ่มบุคคลที่บริษัทฯจัดเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทฯ จะดูแลรักษาและเก็บข้อมูลส่วนบุคคลให้มีความปลอดภัยที่เหมาะสม ไม่ว่าในรูปแบบของ เอกสาร ระบบคอมพิวเตอร์ และระบบอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ รวมถึงเครื่องมือต่างๆ ที่ บริษัทฯ ใช้เพื่อรักษาความปลอดภัยในข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ บริษัทฯ มีการจํากัดการเข้าถึง และใช้เทคโนโลยีในการรักษาความปลอดภัยในข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อป้องกันมิให้มีการ เข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ หรือระบบอิเล็กทรอนิกส์โดยไม่ได้รับอนุญาต รวมถึงเมื่อมีการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลแก่บุคคลภายนอกที่ดําเนินการประมวลผลหรือแก่ผู้ประมวลผลข้อมูล บริษัทฯ จะดําเนินการกํากับดูแลให้บุคคลนั้นดําเนินการอย่างเหมาะสมให้เป็นไปตามกฎหมายกำหนด

6. สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิจะเพิกถอนความยินยอม ระงับการใช้ชั่วคราว แจ้งถึงเหตุการถูกละเมิด โดยสามารถแจ้งความประสงค์ให้เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ทราบเป็นลายลักษณ์อักษรผ่านทางจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ DPO@LIGHTING.CO.TH ได้ตลอดเวลา

นอกจากนี้ ภายใต้ พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล มีสิทธิร้องขอตามกฎหมาย ดังต่อไปนี้

  • 6.1 สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล (RIGHT OF ACCESS) เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของตนที่ บริษัทฯ เก็บรวบรวม และขอให้ บริษัทฯ ทําสําเนาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวให้แก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
  • 6.2 สิทธิในการขอให้โอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล (RIGHT TO DATA PORTABILITY) เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล มีสิทธิในการขอรับข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึง สิทธิขอให้ส่งข้อมูล ไปยังบุคคลอื่น ซึ่งบริษัทฯ อาจเรียกเก็บค่าใช้จ่ายหากการร้องขอหรือการใช้สิทธินั้นซ้ำซ้อนเกินสมควร หรือบริษัทฯต้องใช้ความพยายามทางเทคนิคในการจัดการมากเกินสมควร
  • 6.3 สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคล (RIGHT TO RECTIFICATION) ในการเก็บข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้เป็นข้อมูลที่สมบูรณ์ ถูกต้องและเป็นปัจจุบัน เจ้าของข้อมูลส่วน บุคคลมีสิทธิในการขอแก้ไข ปรับปรุง เปลี่ยนแปลงข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่ถูกต้องหรือเพิ่มเติมข้อมูลที่ไม่สมบูรณ์ได้
  • 6.4 สิทธิในการคัดค้านการประมวลผล (RIGHT TO OBJECT) เจ้าของข้อมูลมีสิทธิในการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล หรือระงับการใช้ข้อมูล เว้นแต่จะ มีข้อจํากัดทางกฎหมายที่บริษัทฯ ไม่อาจทำตามความเรียกร้องได้
  • 6.5 สิทธิในการเพิกถอนความยินยอม (RIGHT TO WITHDRAW CONSENT) เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิเพิกถอนความยินยอมได้ตลอดเวลา เว้นแต่ การเพิกถอนความ ยินยอมจะมีข้อจํากัดตามกฎหมายหรือตามสัญญา ทั้งนี้ การถอนความยินยอมจะไม่ส่งผลกระทบต่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้ให้ความยินยอมไว้ก่อนหน้าโคยชอบด้วย กฎหมายและตามฐานสัญญาที่ได้ให้ไว้
  • 6.6 สิทธิในการลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคล (RIGHT TO ERASURE) ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทฯ ลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลได้ต่อไป ทั้งนี้ การใช้สิทธิลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลนี้จะต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขตามที่กฎหมายกำหนด
  • 6.7 สิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล (RIGHT TO RESTRICTION OF PROCESSING) ท่านมีสิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ทั้งนี้ ในกรณีดังต่อไปนี้
    1. 6.7.1 เมื่ออยู่ในช่วงเวลาที่บริษัทฯ ทำการตรวจสอบตามคำร้องขอของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลให้แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง สมบูรณ์และเป็นปัจจุบัน
    2. 6.7.2 ข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลถูกเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยโดยมิชอบด้วยกฎหมาย
    3. 6.7.3 เมื่อข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลหมดความจำเป็นในการเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์ที่บริษัทฯ ได้แจ้งในการเก็บรวบรวม แต่เจ้าของข้อมูลส่วน บุคคลประสงค์ให้บริษัทฯ เก็บรักษาข้อมูลนั้นต่อไปเพื่อประกอบการใช้สิทธิตามกฎหมาย
    4. 6.7.4 เมื่ออยู่ในช่วงเวลาที่บริษัทฯ กำลังพิสูจน์ถึงเหตุอันชอบด้วยกฎหมายในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล หรือตรวจสอบความจำเป็นใน การเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อประโยชน์สาธารณะ อันเนื่องมาจากการที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ใช้สิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูล ส่วนบุคคล

ทั้งนี้เจ้าของข้อมูลมีสิทธิยื่นคําร้องขอใช้สิทธิต่อเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล โดยบริษัทฯจะดำเนินการตามคำร้องขอใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลทันที เว้นแต่จะปรากฏ ข้อเท็จจริงว่า การดําเนินการตามคำร้องขอดังกล่าวนั้นเกินสมควร พิสูจน์แล้วไม่เป็นความจริง หรือเป็นการขัดต่อกฎหมาย เหตุดังกล่าวนี้บริษัทฯ จะปฏิเสธคําร้องขอใช้สิทธิฯ โดยจะแจ้งให้เจ้าของข้อมูลทราบ

การแจ้งเหตุละเมิดและการพิจารณา เจ้าของข้อมูลมีสิทธิร้องเรียนหากเกิดเหตุละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยตรงต่อคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล อย่างไรก็ ตามท่านสามารถแจ้งร้องเรียนมายังบริษัทฯต่อเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทฯจะดำเนินการรับเรื่องร้องเรียนเมื่อได้รับการแจ้งเหตุจากเจ้าของข้อมูล โดยเบื้องต้นจะ พิจารณาและทบทวนความเสียหายที่เกิดขึ้นกับเจ้าของข้อมูลก่อน เมื่อพิจารณาแล้วพบว่าเจ้าของข้อมูลเกิดความเสียหายจริง จึงจะดำเนินการตามขั้นตอนที่กฎหมายกำหนดต่อไป แต่ทั้งนี้จะดำเนินการไม่เกิน 72 ชั่วโมง

7. การติดต่อบริษัทฯ และการร้องขอใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

หากท่านมีข้อสงสัยใดเกี่ยวกับนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ หรือประสงค์ที่จะใช้สิทธิเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านสามารถติดต่อสอบถามได้ที่

เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วน บุคคล (DATA PROTECTION OFFICER: DPO)

  • สถานที่ติดต่อ :ศูนย์คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล บริษัท ไลท์ติ้ง แอนด์ อีควิปเมนท์ จำกัด (มหาชน)
    เลขที่ 539/2 ชั้น 16–17 อาคารมหานครยิบซั่ม ถนนศรีอยุธยา แขวงถนนพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400
  • EMAIL :dpo@lighting.co.th
  • TEL :02-2488133 ต่อ 1200
  • WEBSITE :www.lighting.co.th
8. การทบทวนและปรับปรุงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทฯ อาจทบทวน ปรับปรุง เปลี่ยนแปลงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้เป็นครั้งคราว เพื่อให้สอดคล้องกับแนวปฏิบัติ กฎหมายอื่นๆ ที่อาจเพิ่มเติม หรือบังคับใช้ใน อนาคต ระเบียบและข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ หากมีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ บริษัทฯ จะประกาศนโยบายฉบับปรับปรุงบนเว็บไซต์ของบริษัทฯ www.lighting.co.th และช่องทางอื่นๆ ของบริษัทฯ ต่อไป

ประกาศ ณ วันที่ 1 มิถุนายน 2565

นางนภาพร วิมลอนุพงษ์
กรรมการผู้จัดการ
บริษัท ไลท์ติ้ง แอนด์ อีควิปเมนท์ จำกัด (มหาชน)

คำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว “PRIVACY NOTICE”
สำหรับผู้สมัครงานและพนักงาน
บริษัท ไลท์ติ้ง แอนด์ อีควิปเมนท์ จำกัด (มหาชน)

ฉบับที่ 1.NOTICE/REV.1/2565

บริษัท ไลท์ติ้ง แอนด์ อีควิปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ดำเนินการในฐานะผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล เคารพสิทธิความเป็นส่วนตัว ตระหนักถึงความสําคัญของการคุ้มครองข้อมูล ส่วนบุคคล ปฏิบัติตามมาตรการรักษาความปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคล และเพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าพนักงานจะได้รับความคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล จึงได้จัดทำนโยบายความเป็น ส่วนตัวฉบับนี้ขึ้น เพื่อแจ้งให้ทราบถึงรายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับการเก็บรวบรวม การใช้ และการเปิดเผย (รวมเรียกว่า “ประมวลผล”) รวมทั้งได้อธิบายถึงสิทธิต่างๆ ภายใต้ พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562

บริษัทฯ เก็บรวมรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลภายใต้ฐานกฎหมายดังนี้
  • เพื่อใช้ในการดำเนินการเข้าทำสัญญาหรือเพื่อปฏิบัติตามกระบวนการคัดสรรบุคลากร เช่น พนักงานและผู้สมัครงาน ซึ่งอาจครอบคลุมทั้งที่เป็นสมาชิกครอบครัว หรือบุคคลอ้างอิงด้วย
  • เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย และข้อบังคับของรัฐ เช่น การบริหารทรัพยากรมนุษย์ การคัดสรรกำลังคน การจัดสวัสดิการต่างๆ เช่น การรักษาพยาบาล ประกันภัย และสวัสดิการอื่นๆ การส่งข้อมูลให้หน่วยงานรัฐ เช่นประกันสังคม อาชีวอนามัย พัฒนาฝีมือแรงงาน การสร้างบัญชีผู้ใช้งาน การระบุตัวตนเพื่อเข้าใช้ระบบและพื้นที่ของบริษัทฯ การ เข้าถึงระบบสารสนเทศ การรักษาความปลอดภัย การป้องกันอุบัติเหตุและอาชญากรรม การตรวจสอบด้านทุจริต หรือข้อพิพาทต่างๆ
  • เพื่อป้องกันและระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของพนักงานหรือบุคคลอื่น เช่น การติดต่อในกรณีฉุกเฉิน การควบคุมและป้องกันโรคติดต่อ เพื่อประโยชน์ทางกิจ สาธารณะ หรือปฏิบัติหน้าที่ในการใช้อำนาจรัฐ

บริษัทฯ อาจมีความจำเป็นต้องเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลประเภทข้อมูลอ่อนไหว (SENSITIVE DATA) ตามความจำเป็น ซึ่งวัตถุประสงค์ในการเก็บข้อมูล อ่อนไหวมีดังนี้ :

  1. - ข้อมูลชีวภาพ เพื่อยืนยันตนในการเข้าถึงยังพื้นที่สำนักงาน
  2. - ข้อมูลศาสนา เพื่อพิจารณาในการจัดสวัสดิการ และอาหารตามประเพณี
  3. - ข้อมูลอาชญากรรม เพื่อคัดกรองบุคคลอันตราย และตรวจสอบคุณธรรมของผู้สมัครงาน
  4. - ข้อมูลด้านความพิการ เพื่อดำเนินการตามความจำเป็นตามฐานกฎหมาย
  5. - ข้อมูลด้าน เพศ น้ำหนัก ส่วนสูง สุขภาพ เพื่อพิจารณาถึงตำแหน่งที่เหมาะสม
ผลกระทบที่เป็นไปได้ในกรณีที่เจ้าของข้อมูลปฎิเสธการยินยอมฯ

ผลกระทบที่เป็นไปได้ ในกรณีที่เจ้าของข้อมูลปฏิเสธการยินยอมในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลซึ่งมีผลกระทบต่อเจ้าของข้อมูลมีดังต่อไปนี้ บริษัทฯ ไม่สามารถจัด สวัสดิการ หรือในบางกรณีบริษัทฯ อาจจำเป็นต้องยกเลิกสัญญาที่ทำกับเจ้าของข้อมูลที่ปฏิเสธการยินยอมฯ เนื่องจากไม่สามารถดำเนินการประมวลผล หรือส่งต่อเพื่อประมวลผลตาม วัตถุประสงค์ของสัญญาจ้าง และหรือกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

การเก็บรักษา และมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัย

บริษัทฯ จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลไว้ตราบเท่าที่จําเป็น และดูแลรักษาและเก็บข้อมูลส่วนบุคคลให้มีความปลอดภัยที่เหมาะสม เพื่อบรรลุตามวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งไว้ในนโยบาย ฉบับนี้ โดยจะพิจารณาระยะเวลาที่เหมาะสม ตามระยะเวลาที่อาจคาดการณ์ได้ตามกฎหมายและมาตรฐานการเก็บของบริษัทฯ ไม่เกินกว่า 10 ปีตามอายุความ กรุณาดูตารางชี้แจงการเก็บ รวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

ทั้งนี้ บริษัทฯ มีการจํากัดการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลเฉพาะเจ้าหน้าที่ๆเกี่ยวข้องเท่านั้น มีระบบจัดเก็บโดยใช้เทคโนโลยีในการรักษาความปลอดภัยในข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อป้องกัน มิให้มีการเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ เอกสาร หรือระบบอิเล็กทรอนิกส์โดยไม่ได้รับอนุญาต รวมถึงเมื่อมีการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลแก่บุคคลภายนอกที่ดําเนินการประมวลผล หรือแก่ผู้ประมวลผลข้อมูล บริษัทฯ จะดําเนินการกํากับดูแลให้บุคคลนั้นดําเนินการอย่างเหมาะสมให้เป็นไปตามกฎหมายกำหนด

สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิจะเพิกถอนความยินยอม ระงับการใช้ชั่วคราว แจ้งถึงเหตุการถูกละเมิด โดยสามารถแจ้งความประสงค์ให้เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลทราบ เป็นลายลักษณ์อักษรผ่านทางจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ dpo@lighting.co.th ได้ตลอดเวลา

นอกจากนี้ ภายใต้ พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เจ้าของข้อมูล มีสิทธิร้องขอตามกฎหมายดังต่อไปนี้

  1. สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลและขอรับสำเนา (RIGHT OF ACCESS)
  2. สิทธิในการขอให้โอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล (RIGHT TO DATA PORTABILITY)
  3. สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคล (RIGHT TO RECTIFICATION)
  4. สิทธิในการคัดค้านการประมวลผล (RIGHT TO OBJECT)
  5. สิทธิในการเพิกถอนความยินยอม (RIGHT TO WITHDRAW CONSENT)
  6. สิทธิในการขอลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคล (RIGHT TO ERASURE)
  7. สิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล (RIGHT TO RESTRICTION OF PROCESSING)

ทั้งนี้เจ้าของข้อมูลมีสิทธิยื่นคําร้องขอใช้สิทธิต่อเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (DPO) โดยบริษัทฯ จะดำเนินการตามคำร้องและตอบกลับการขอใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูล ภายในระยะเวลา 30 วัน เว้นแต่จะปรากฏข้อเท็จจริงว่าการดําเนินการตามคำร้องขอดังกล่าวนั้นบ่อยครั้งเกินสมควร ไม่สมเหตุผล พิสูจน์แล้วไม่เป็นความจริง หรือเป็นการขัดต่อ กฎหมาย เหตุดังกล่าวนี้บริษัทฯ จะปฏิเสธคําร้องขอใช้สิทธิฯ โดยจะแจ้งให้เจ้าของข้อมูลทราบ

การแจ้งเหตุละเมิดและหลักการพิจารณา

เจ้าของข้อมูลมีสิทธิร้องเรียน หรือแจ้งเหตุละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยตรงต่อสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (สคส.) หรือแจ้งเหตุฯมายังบริษัทฯ ต่อเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วน

บุคคล (DPO) โดยบริษัทฯจะดำเนินการรับเรื่องร้องเรียนเมื่อได้รับการแจ้งเหตุจากเจ้าของข้อมูล แต่ทั้งนี้บริษัทฯจะพิจารณาและทบทวนความเสียหายที่เกิดขึ้นกับเจ้าของข้อมูล เบื้องต้นก่อน เมื่อพิจารณาแล้วพบว่าเจ้าของข้อมูลเกิดความเสียหายจริง จึงจะดำเนินการตามขั้นตอนที่กฎหมายกำหนดต่อไปแต่ไม่เกิน 72 ชั่วโมง

ช่องทางการติดต่อบริษัทฯ

หากท่านมีข้อสงสัยใดเกี่ยวกับนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ หรือประสงค์ที่จะใช้สิทธิเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านสามารถติดต่อสอบถามได้ที่

  • บริษัท ไลท์ติ้ง แอนด์ อีควิปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ทำหน้าที่ :ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล (DATA CONTROLLER)
  • ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายทรัพยากรบุคคลและบริหารทั่วไป ทำหน้าที่ :ผู้คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (DATA PROTECTION OFFICER: DPO)
  • สถานที่ติดต่อ :เลขที่ 539/2 ชั้น16–17 อาคารมหานครยิบซั่ม ถนนศรีอยุธยา แขวงถนนพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400
  • EMAIL :dpo@lighting.co.th
  • TEL :02-2488133 ต่อ 1200
  • WEBSITE :www.lighting.co.th
คำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวการใช้กล้องวงจรปิด
“CCTV PRIVACY NOTICE”
บริษัท ไลท์ติ้ง แอนด์ อีควิปเมนท์ จำกัด (มหาชน)

ฉบับที่ 1.HR/CCTV/REV.1/2565

บริษัท ไลท์ติ้ง แอนด์ อีควิปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ดำเนินการติดกล้องวงจรปิด (CCTV) สำหรับเฝ้าระวังสังเกตการณ์พื้นที่สำนักงาน เพื่อการปกป้องชีวิต สุขภาพ และทรัพย์สิน ทั้งนี้ เราทำการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงาน และผู้มาติดต่อที่เข้ามายังพื้นที่ โดยผ่านการใช้งานอุปกรณ์กล้องวงจรปิดดังกล่าวประกาศความเป็นส่วนตัวในการใช้กล้อง วงจรปิดฉบับนี้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผย ซึ่งข้อมูลที่สามารถทำให้สามารถระบุตัวตนเจ้าของข้อมูลได้ ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้

1. ฐานกฎหมายในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

เราดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลภายใต้ฐานกฎหมายดังต่อไปนี้

  • ความจำเป็นในการป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของท่านหรือบุคคลอื่น
  • ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย
  • ความจำเป็นในการปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งควบคุมดูแลเกี่ยวกับความปลอดภัยและสภาพแวดล้อมในบริเวณสำนักงานรวมถึงทรัพย์สิน
2. วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล

เราดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์ ดังต่อไปนี้

  • เพื่อปกป้องสุขภาพ ความปลอดภัย และทรัพย์สิน
  • เพื่อปกป้องอาคาร สถานที่ และการเฝ้าระวังอาชญากรรม
  • เพื่อสนับสนุนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการบังคับใช้กฎหมายเพื่อดำเนินคดีทางกฎหมาย
  • เพื่อการให้ความช่วยเหลือเหตุระงับข้อพิพาทซึ่งอาจเกิดขึ้น
3. ข้อมูลส่วนบุคคลที่เราเก็บรวบรวมและใช้

บริษัทฯ ทำการติดตั้งกล้องวงจรปิดในตำแหน่งที่มองเห็นได้ โดยจัดวางป้ายเตือนว่ามีการใช้งานกล้องวงจรปิด ณ บริเวณทางเข้าสำนักงานเพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล โดยข้อมูลที่มีการเก็บรวบรวมมีดังต่อไปนี้

รายการข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวม

  1. 3.1 ภาพนิ่ง
  2. 3.2 ภาพเคลื่อนไหว
  3. 3.3 เสียง
  4. 3.4 ทรัพย์สิน

ทั้งนี้บริษัทฯ จะไม่ติดตั้งกล้องวงจรปิดในพื้นที่ที่เป็นการล่วงละเมิดสิทธิขั้นพื้นฐานจนเกินสมควร ได้แก่ ห้องพักพยาบาล ห้องน้ำ เป็นต้น

4. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทฯจะเก็บรักษาข้อมูลในกล้องวงจรปิดไว้เป็นความลับ เว้นแต่กรณีที่มีความจำเป็นเพื่อให้สามารถบรรลุวัตถุประสงค์ในการเฝ้าระวังสังเกตการณ์ตามที่ได้ระบุในประกาศฉบับนี้ บริษัทฯอาจเปิดเผยข้อมูลแก่

  1. 4.1 หน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายกำหนด เพื่อสนับสนุนในการบังคับใช้กฎหมาย เพื่อการดำเนินการสืบสวน สอบสวน หรือการดำเนินคดีความต่างๆ
  2. 4.2 ผู้ให้บริการบุคคลภายนอก เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย สุขภาพ และทรัพย์สิน
5. สิทธิตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลสามารถใช้สิทธิตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ซึ่งมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

  • 5.1 สิทธิในการเข้าถึง รับสำเนา และขอให้เปิดเผยที่มาของข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่เราเก็บรวบรวม เว้นแต่กรณีที่เรามีสิทธิปฏิเสธคำขอของท่านตามกฎหมายหรือคำสั่ง ศาล หรือกรณีที่คำขอมีผลกระทบที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น
  • 5.2 สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่ถูกต้องหรือไม่ครบถ้วน เพื่อให้มีความถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
  • 5.3 สิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลในกรณีดังต่อไปนี้
    1. 1. เมื่ออยู่ในช่วงเวลาที่บริษัทฯทำการตรวจสอบตามคำร้องขอให้แก้ไขข้อมูล
    2. 2. ข้อมูลส่วนบุคคลที่ถูกเก็บรวบรวม ถูกใช้หรือเปิดเผยโดยมิชอบด้วยกฎหมาย
    3. 3. เมื่อไม่จำเป็นในการเก็บรักษาข้อมูล แต่เจ้าของข้อมูลประสงค์ให้บริษัทฯเก็บรักษาข้อมูลนั้นต่อไปเพื่อประกอบการใช้สิทธิตามกฎหมาย
    4. 4. เมื่ออยู่ในช่วงเวลาที่กำลังพิสูจน์ให้เห็นถึงเหตุอันชอบด้วยกฎหมายในการเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล หรือตรวจสอบความจำเป็นในการเก็บ รวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อประโยชน์สาธารณะ
  • 5.4 สิทธิในการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล เว้นแต่กรณีที่บริษัทฯปฏิเสธคำขอของท่านโดยชอบด้วยกฎหมาย หรือเพื่อประโยชน์สาธารณะตามภารกิจของบริษัทฯ
6. ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล

เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ของการเฝ้าระวังสังเกตโดยการใช้อุปกรณ์กล้องวงจรปิดตามที่ประกาศนี้กำหนด เราจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลในกล้องวงจรปิดที่เกี่ยวข้องกับท่าน เป็นระยะเวลา 2 เดือน อ้างอิงระยะเวลาการจัดเก็บตามนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ เมื่อพ้นระยะเวลาดังกล่าวเราจะทำการ ลบ ทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไป

7. การรักษาความมั่นคงปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทฯ มีมาตรการในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเหมาะสม ทั้งในเชิงเทคนิคและการบริหารจัดการ เพื่อป้องกันมิให้ข้อมูลสูญหาย หรือมีการเข้าถึง ลบ ทำลาย ใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายและแนวปฏิบัติด้านความมั่นคงปลอดภัยสารสนเทศ (INFORMATION SECURITY POLICY) สามารถดูมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลได้ที่ WEBSITE ของบริษัทฯ

8. ความรับผิดชอบของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทฯ ได้กำหนดให้เจ้าหน้าที่เฉพาะผู้ที่มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวข้องในการจัดเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของกิจกรรมการประมวลผลนี้เท่านั้นที่จะสามารถเข้าถึง ข้อมูลส่วนบุคคลได้ โดยดำเนินการให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติตามประกาศนี้อย่างเคร่งครัด

9. การเปลี่ยนแปลงแก้ไขคำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว

ในการปรับปรุงหรือเปลี่ยนแปลงประกาศนี้ บริษัทฯ อาจพิจารณาแก้ไขเปลี่ยนแปลงตามที่เห็นสมควร และจะทำการแจ้งให้ท่านทราบผ่านช่องทาง WEBSITE ของบริษัทฯ การเข้ามาในพื้นที่ถือเป็นการรับทราบตามข้อตกลงในประกาศนี้ ทั้งนี้ โปรดระงับการเข้าพื้นที่ หากท่านไม่เห็นด้วยกับข้อตกลงในประกาศ

10. ช่องทางการติดต่อ

เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วน บุคคล (DATA PROTECTION OFFICER: DPO)

  • สถานที่ติดต่อ :ศูนย์คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล บริษัท ไลท์ติ้ง แอนด์ อีควิปเมนท์ จำกัด (มหาชน)
    เลขที่ 539/2 ชั้น 16–17 อาคารมหานครยิบซั่ม ถนนศรีอยุธยา แขวงถนนพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400
  • EMAIL :dpo@lighting.co.th
  • TEL :02-2488133 ต่อ 1200
  • WEBSITE :www.lighting.co.th

ประกาศ ณ วันที่ 1 มิถุนายน 2565

เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล DPO
ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายทรัพยากรบุคคลและบริหารทั่วไป